เมนู

7. อุปนิสงฆบุปผชาดก



ว่าด้วยคนดีไม่ควรทำชั่ว แม้นิดหน่อย



[944] ดูก่อนท่านผู้เป็นกับด้วยเรา ท่านดม
ดอกไม้ที่เกิดในน้ำ คือดอกบัว ที่เขาไม่ได้
ให้นี้ใด การดมนี้นั้นเป็นองค์ หนึ่งของ
การขโมย ท่านเป็นผู้ขโมยกลิ่น.
[945] เราไม่ลัก เราไม่เด็ดดอกบัว แต่เรายืน
ดมอยู่ไกล ๆ เมื่อเป็นเช่นนั้น เหตุไฉนหนอ
จึงกล่าวหาว่าเป็นผู้ขโมยกลิ่น ?
[946] ชายคนนี้ใด ขุดเหง้าบัว เด็ดดอกบุณ-
ฑริก ชายคนนี้นั้น ผู้มีการงานเลอะเทอะ
อย่างนี้ เหตุไรจึงไม่มีใครว่า ?
[947] ชายผู้มีกรรมบาปดาดดื่นแล้ว เปรอะ
เปื้อนบาป เหมือนผ้าอ้อม ข้าพเจ้าจึงไม่มีคำ
พูดอะไรในเรื่องนั้น และข้าพเจ้าควรเพื่อจะว่า
กล่าวเขาได้.

[948] สำหรับคนผู้ไม่มีกิเลสดุจเนิน มีปกติ
แสวงหาความสะอาดเป็นนิจ บาปประมาณเท่า
ปลายขนทราย จะปรากฏแก่เขา ประมาณเท่า
กลีบเมฆทีเดียว.
[949] ข้าแต่ท่านผู้ควรบูชายักษ์ ท่านรู้จัก
ข้าพเจ้าแน่นอน และท่านอนุเคราะห์ข้าพเจ้า
ข้าแต่ท่านผู้ควรบูชายักษ์ ท่านจงตำหนิอีก
เมื่อท่านเห็นโทษชนิดนี้ของเรา.
[950] ข้าพเจ้าไม่ได้อาศัยสิ่งนั้นเลี้ยงชีพเลย ทั้ง
เราไม่ได้เป็นลูกจ้างท่าน ข้าแต่ภิกษุ ตัวท่าน
เอง ควรรู้กรรม ที่เป็นเหตุให้ไปสู่สุคติ.

จบ อุปสิงฆบุปผชาดกที่ 7

อรรถกถาอุปสิงฆบุปผชาดกที่ 7



พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภ
ภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง จึงตรัสเรื่องนี้ มีคำเริ่มต้นว่า ยเมตํ ดังนี้.
ได้ยินว่า ภิกษุรูปนั้น เมื่อออกจากพระวิหารเชตวันไปอาศัย
อยู่ป่าแห่งใดแห่งหนึ่ง ในโกศลรัฐ วันหนึ่ง ลงไปสู่สระบัวเห็นดอกบัว